การเลือกหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5

การเลือกหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 แบบไหนดี

ในสถาณะการณ์ที่ฝุ่น pm 2.5 ที่นับวันมากขึ้น และยังคงวนเวียนอยู่ไม่จากไปไหนง่ายๆ และนับวันจะรุนแรงขึ้น การป้องกันเบื้องต้นด้วยตัวเอง คือการสวมใส่หน้ากากอนามัยทั่วไป หน้ากากกรองคาร์บอน เพื่อเป็นการบรรเทาได้ระดับหนึ่ง  แต่จะเลือกหน้ากากอนามัยแบบไหนจึงจะป้องกันฝุ่น PM 2.5 ระดับต่างๆ ได้ดี

มีข้อมูลดี จาก สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 27 มกราคม 2568 มาแนะนำครับ 

กลุ่มที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 สูง ได้แก่ เด็กเล็ก ซึ่งมีอัตราการหายใจสูงกว่าผู้ใหญ่, หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งจะส่งผลต่อทารกในครรภ์และทำให้คลอดก่อนกำหนด, ผู้สูงอายุ ซึ่งระบบหายใจมีความเสื่อมตามวัย, ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง อาทิ ตำรวจจราจร พนักงานกวาดถนน/เก็บขยะ พ่อค้าแม่ค้าริมทาง มอเตอร์ไซค์รับจ้าง คนงานก่อสร้าง ซึ่งมีโอกาสสัมผัสฝุ่นเวลานาน และผู้ที่สูบบุหรี่ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอด โรคหืด โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว 4 กลุ่มโรค คือ กลุ่มโรคทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหืด กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคตาอักเสบ และกลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ ในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 สูงเกินมาตรฐาน อาจเกิดอาการกำเริบได้ จึงควรดูแลตนเองเป็นพิเศษ

หน้ากากแต่ละประเภทจะมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM 2.5 ต่างกัน จึงต้องเลือกหน้ากากให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มและสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยหน้ากาก N95 ทั้งแบบมีวาล์ว และไม่มีวาล์ว สามารถกรองฝุ่นได้ 95% ส่วนหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM2.5 (กรณีแนบสนิทใบหน้า) กรองฝุ่นได้ 50-70% ทั้งสองประเภทนี้สามารถใช้ได้ทุกกลุ่ม สำหรับหน้ากากผ้าฝ้าย 3 ชั้น กรองฝุ่นได้ประมาณ 40% และหน้ากากผ้ามัสลิน กรองได้ประมาณ 37% ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง

ที่มา ข้อมูลและรูปภาพ https://pr.moph.go.th/online/index/news/311771online/index/event

ทางเรามีข้อแนะนำดี ในการเลือก มาฝากครับ

การเลือกหน้ากาก PM 2.5 มีความสำคัญเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ต่อไปนี้เป็นวิธีในการเลือกหน้ากากที่เหมาะสม:

1.มาตรฐานหน้ากาก: ควรเลือกหน้ากากที่มีมาตรฐานเช่น N95, KN95 หรือ FFP2 ซึ่งสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ดี

2.ความพอดี: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้ากากพอดีกับใบหน้า ไม่มีช่องว่างที่อากาศสามารถไหลผ่านได้

3.วัสดุ: เลือกหน้ากากที่ทำจากวัสดุที่สามารถกรองได้ดี และมีการระบายอากาศที่เหมาะสม

4.ความสะดวกสบาย: เลือกหน้ากากที่ใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่ทำให้หายใจลำบาก

5.อายุการใช้งาน: ตรวจสอบอายุการใช้งานของหน้ากากและทำความเข้าใจกับวิธีการใช้งานและเก็บรักษา

6.ตรวจสอบสัญลักษณ์: มองหาสัญลักษณ์หรือการรับรองจากองค์การอนามัยที่แสดงว่าหน้ากากมีคุณภาพตามที่กำหนด

7.การใช้ซ้ำ: หากเลือกหน้ากากที่ใช้ซ้ำได้ ควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี

การเลือกหน้ากากที่ถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากมลพิษทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับหน้ากาก 3M มีหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับ PM 2.5 โดยเฉพาะ เช่น:

3M 9501/9502: เป็นหน้ากาก N95 ที่กรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 95% และมีการออกแบบที่สวมใส่สบาย

3M 9010: นี่คือหน้ากาก N95 รุ่นใหม่ที่ช่วยป้องกันการสูดดมฝุ่น PM 2.5 ได้ดีเช่นกัน

3M 8222: รุ่นนี้มีวาล์วระบายอากาศ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานในระยะเวลานาน

3M 1860: นี่คือหน้ากาก N95 ที่ได้รับความนิยมในแวดวงการแพทย์และอุตสาหกรรม มีคุณสมบัติกรองอนุภาคสูง

เมื่อเลือกหน้ากาก 3M สำหรับ PM 2.5 ควรตรวจสอบมาตรฐานการรับรองและวัสดุที่ใช้ระบายอากาศได้ดี และตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้ากากมีความพอดีกับใบหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศไหลผ่านช่องว่างค่ะ นอกจากนี้ ควรเช็คข้อกำหนดการใช้และการเก็บรักษาของหน้ากากแต่ละรุ่น หรือมีอีกหลากหลายรุ่น ออกมาใช้ทดแทนเป็นจำนวนมาก 

สามารถสอบถาม รุ่นหน้ากาก ในปัจจุบัน และข้อมูลด้านหน้ากาก 3m เรามีตัวแทนที่พร้อมให้คำแนะนำสินค้าหน้ากาก พร้อมให้ข้อมูลในการเลือกใช้ เลือกซื้อ สนใจสั่งซื่อหน้ากาก 3m เรามีตัวแทนขาย พร้อมให้คำแนะนำด้านสินค้า ครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะเราเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ของ 3m thailand รับประกันสินค้าของแท้ 100 %